มีผู้ก่อตั้งแบรนด์ดังที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายคนนักที่ไม่ชอบออกสื่อโชว์ตัวสู่สาธารณะ
พวกเขาเป็นนักธุรกิจที่ชอบความสงบและอาจจะอยู่นอกกระแสความสนใจ
เราได้นำข้อมูลจาก Bright Side มาแบ่งปันให้คุณได้เห็นหน้าตาของบุคคลที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้
Nike – Phil Knight
Young Phil Knight และโค้ชของเขา Bill Bowerman เป็นผู้รักการวิ่ง ในช่วงทศวรรษที่ 60 ในประเทศสหรัฐอเมริกาไม่มีรองเท้าสำหรับวิ่งที่มีคุณภาพดีพอ และนี่คือจุดเริ่มต้นให้เขาก่อตั้งบริษัท Blue Ribbon Sports เพื่อนำเข้าและจำหน่ายรองเท้าผ้าใบสำหรับวิ่งยี่ห้อญี่ปุ่นในสหรัฐอเมริกาและตั้งชื่อว่า Asics. เมื่อเวลาผ่านไปการติดต่อซื้อขายกับซัพพลายเออร์ตัวแทนจำหน่ายก็ยากลำบากมากขึ้น Khight และ Bill จึงตัดสินใจที่จะผลิตรองเท้าผ้าใบในแบรนด์ของตัวเอง Bill เป็นผู้ออกแบบเองโดยเขาได้ไอเดียมาจากขนมวาฟเฟิลที่ภรรยาของเขาทำ ในปี 1978 บริษัทได้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Nike พร้อมโลโก้ที่โด่งดัง จริง ๆ แล้ว Knight ไม่ชอบช่ื่อ Nike เท่าไรนัก เขาอยากจะมีชื่ออื่นที่ดีกว่านี้ และเขาได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดในหนังสือของเขาที่ชื่อว่า Show Dog
Starbucks – Howard Schultz
Starbucks เปิดให้บริการในปี 1971 ในฐานะร้านขายเมล็ดกาแฟและอุปกรณ์ในรัฐซีแอตเติล และในปี 1987 บริษัท Howard Schultz (เจ้าของของ II Giornale) ได้เข้ามาซื้อกิจการ และเริ่มขายกาแฟตั้งแต่นั้นมา Howard ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างบรรยากาศภายในร้านมาจากบาร์สไตล์อิตาเลี่ยน และอาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวที่ขายกาแฟเอสเปรสโซที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเราสามารถกินกาแฟ Starbucks ได้เกือบทั่วทุกแห่งในโลก
ZARA – Amancio Ortega
Amancio เริ่มต้นธุรกิจในยุค 70 ในขณะนั้นเขาทำชุดนอนและเสื้อคลุมอาบน้ำกับภรรยาของเขาในห้องนั่งเล่น เมื่อบริษัทคู่ค้าชาวเยอรมันปฏิเสธคำสั่งซื้อและสินค้าจำนวนมาก เขาและภรรยาตัดสินใจขายเสื้อผ้าด้วยตัวเอง โดยเปิดร้านแรกในปีค. ศ. 1975 ที่ La Coruna ประเทศสเปน เขาได้วางแผนติดตามแฟชั่นที่ทันสมัยและทำการออกแบบตัดเย็บออกขายทันที โดยจะมีเสื้อผ้าใหม่และทันสมัยถูกโชว์ขายในร้านทุก ๆ 2 สัปดาห์ ต่อมาบริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็น Inditex และเปิดร้านขายเสื้อผ้าในยี่ห้อ Massimo Dutti, Pull and Bear, Oysho, Zara Home, Uterqüe, Stradivarius, Lefties และ Bershka
ตามที่อ้างถึงจาก Forbes กล่าวว่า Amancio Ortega เป็นคนร่ำรวยที่สุดในโลก
Pandora – Per Enevoldsen และ Winnie Enevoldsen
ในปี 1982 ครอบครัวของ Enevoldsen เปิดร้านขายเครื่องประดับขนาดเล็กในโคเปนเฮเกน โดยนำเครื่องประดับจากประเทศไทยไปขาย โดยปี 1987 บริษัทของพวกเขาได้ขยายขนาดใหญ่มากขึ้นและตัดสินใจสร้างเครื่องประดับด้วยการออกแบบเอง เขาใช้เวลามากกว่า 10 ปีเพื่อให้ Pandora โด่งดังและได้รับความนิยม ในปี 2000 ได้สร้างออพชั่นที่ลูกค้าสามารถออกแบบเครื่องประดับได้ด้วยตัวเอง สร้อยข้อมือสามารถสร้างขึ้นได้โดยการออกแบบจากลูกค้า นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาบริษัทได้เติบโตขึ้นและครอบครัว Enevoldsen เป็นหนึ่งในคนที่ร่ำรวยที่สุดในเดนมาร์ก
Ferrero – Michele Ferrero
ในปี 1957 Michele ได้สืบทอดธุรกิจช็อกโกแลตถั่วจากกิจการของครอบครัว เขาเป็นผู้รักในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ เขาคิดถามง่าย ๆ ว่าแม่บ้านชาวอิตาเลียนจะซื้ออะไรให้กับลูก ๆ ของเธอและเธอก็ต้องชอบสิ่งนั้นด้วย เขาจึงได้คิดค้นทำช็อกโกแลต Kinder Surprise ซึ่งเป็นช็อกโกแลตนมที่เขาคิดว่าเด็ก ๆ และพ่อแม่ของเด็กต้องชอบ และเขาได้คิดค้นสูตร Ferrero Rocher และขนม Raffaello ซึ่งเป็นสูตรขนมที่รู้จักกันดีทั่วโลกในชื่อ Nutella และ Michele ได้สังเกตว่าผู้หญิงชาวอเมริกันชอบดูแลสุขภาพและน้ำหนัก เขาจึงได้คิดค้น Tic Tac สูตรที่มีแคลอรี่เพียง 2 แคลอรี่เท่านั้นเพื่อตอบสนองความต้องการของคุณผู้หญิงเหล่านั้น Michele มีชีวิตที่ยืนยาวและเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 89 ปี
Hard Rock Cafe – Isaac Tigrett และ Peter Morton
Hard Rock Cafe เป็นร้านกาแฟที่มีประวัติที่น่าสนใจไปทั่วโลก ในปี 1969 นักดนตรีวง The Door ได้ทำอัลบั้ม Morrison Hotel และในขณะนั้นเขาได้พากันมาดินเนอร์ที่ร้าน Hard Rock Cafe และโดยบังเอิญสไตล์ของร้านกับอัลบั้มของมีสอดคล้องกัน เขาจึงถ่ายรูปในร้านกาแฟแห่งนี้มาใส่ในด้านหลังปกอัลบั้มของพวกเขา อีก 1 ปีต่อมามีชาวอังกฤษ 2 คนที่ชื่อ Isaac Tigrett และ Peter Morton ได้ขอให้พวกเขาเปิดร้านกาแฟในลอนดอนโดยใช้ชื่อว่า Hard Rock Cafe เหล่านักดนตรียินดีรับข้อเสนอและในเวลาอันรวดเร็ว Hard Rock Cafe ได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
Laсoste – René Lacoste
PHOTO: EAST NEWS
เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นหรือออกแบบโดยนักออกแบบแฟชั่นชื่อดังแต่อย่างใด แต่มันถูกสร้างขึ้นโดยนักเทนนิสชาวฝรั่งเศส ในยุคค.ศ.ที่ 20 นักเทนนิสนิยมใส่เสื้อแขนยาว และในปี 1926 Rene Lacoste ได้ตัดเย็บเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นเองเพื่อใส่ในทัวร์นาเมนต์หนึ่งของเขา โดย Rene ตั้งให้มันว่า “alligator” “จระเข้” เพราะเขามักทำลายและชนะคู่แข่งของเขาเสมอหากพวกเขาเล่นพลาด และจระเข้ตัวเล็กได้กลายมาเป็นโลโก้บนหน้าอกเสื้อตั้งแต่นั้นมา ในปี 1993 Rene ได้ก่อตั้งบริษัทและขยายสินค้าเพิ่มมากขึ้นซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเสื้อสำหรับนักเทนนิสและนักล่องเรือ
Lego – Ole Kirk Christiansen
ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1930 Ole Kirk เปิดบริษัทที่ทำโต๊ะรีดผ้าและบันได แต่ในไม่ช้าเขาก็เริ่มทำของเล่นไม้ คำว่า “Lego” ประกอบด้วยคำภาษาเดนมาร์ก 2 คำคือ “Le” (เล่น) และ “Go” (ดี) ในปี 1947 ของเล่นนี้เปลี่ยนจากไม้กลายเป็นพลาสติกและมีชิ้นส่วนพิเศษที่จะให้เด็ก ๆ ต่อเข้าด้วยกันตามวิธีการเล่นที่เรารู้จักกัน เป็นที่น่าสนใจว่าส่วนประกอบของเลโก้สามารถต่อเข้ากันได้ในรูปแบบทั้งหมดที่ต้องการ และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม Lego ถึงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน Ole เสียชีวิตเมื่ออายุ 66 ปีและลูกชายทั้ง 4 ของเขาก็ได้รับมรดกสืบทอดกิจการ
Google – Larry Page และ Sergey Brin
บริษัทกูเกิ้ลถูกสร้างขึ้นโดยนักศึกษา 2 คนจากมหาวิทยาลัย Stanford University เขาคือ Larry Page และ Sergey Brin ปี 1998 ได้ก่อตั้งบริษัทและจดทะเบียนโดเมนในนาม google.com ซึ่ง Google มาจากคำภาษาอังกฤษซึ่งมีความหมายถึงตัวเลขที่มี 0 100 ตัว และ Google ก็คือเครื่องค้นที่ใช้ในการค้นหามาจนถึงทุกวันนี้
Instagram – Kevin Systrom
เป็นแอพพลิเคชั่นที่ถูกสร้างขึ้นโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยชาว Standford ผู้มีชื่อว่า Kevin Systrom เขารักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ ต่อมา Kevin ได้พบนักลงทุนชื่อ Mike Krieger และได้ร่วมกันลงทุนพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ให้บริการด้านการถ่ายภาพตัวเอง เขาต้องการให้แอพพลิเคชั่นตัวนี้มีความเป็นเอกลักษณ์และใช้งานง่าย แม้ว่าจะใช้กล้องราคาถูกก็สามารถสร้างสรรค์รูปภาพที่สวยงามได้ โดยมีเครื่องมือที่ชื่อ X-Pro II เป็นผู้ช่วย หลังจากนั้น 2 ปีที่เปิดตัว แอพพลิเคชั่นตัวนี้ก็ถูกซื้อโดย Facebook เป็นเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์
ขอบคุณภาพและเรื่องจาก https://brightside.me/
